หน้าหลัก
ITA
LPA
ประกาศจากระบบ e-GP
ประกาศจากระบบ e-GP ในเครือข่าย
องค์การบริหารส่วนตำบล ไผ่กองดิน ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ
 
ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่กองดิน
นายกำพล จรุงกิจกุล
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่กองดิน
โทร : 081-909-9286
ศาสนสถานศูนย์รวมจิตใจในตำบล
วัดราษฎร์บำรุง
วัดฤกษ์บุญมี
วัดทองขาหย่าง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
องค์การบริหารส่วนตำบลไผ่กองดิน
1
2
3
 
 
 
     
 
 

 
15 วิธีประหยัดน้ำ เริ่มทำได้ง่าย ๆ เริ่มจากที่บ้าน  
 

วิธีประหยัดน้ำ สิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร แล้วสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้เรียกว่าการช่วยประหยัดน้ำได้หรือเปล่า กระปุกดอทคอมเลยรวบรวม 15 วิธีประหยัดน้ำมาฝากกัน เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนน้ำถือเป็นปัญหาเข้าขั้นวิกฤตที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศ ก่อนที่เราจะไม่มีนำไว้ใช้อีกต่อไป แถมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้อีกทางหนึ่งด้วย
1. เช็คท่อน้ำและก๊อกน้ำ
          รู้ไหมคะว่าน้ำหยดเล็ก ๆ จากท่อน้ำหรือก๊อกน้ำที่ติดตั้งไม่แน่นนั้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ซ่อมแซมในแต่ละวันนั้นจะสูญเสียน้ำไปประมาณ 75 ลิตร และถ้าท่อน้ำมีขนาดใหญ่จะเสียน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 387 ลิตร คิดูสิคะว่ามันมากมายแค่ไหน
2. ไม่ทิ้งขยะลงชักโครก
          การทิ้งขยะลงชักโครกนอกจากจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ชักโครกตันแล้วยังเป็นการสิ้นเปลืองน้ำอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผ้าอนามัย กระดาษชำระ หรือก้นบุหรี่ที่ถูกท้งลงไป จะต้องใช้น้ำปริมาณมากทีเดียวในการชำระล้างไม่ให้เหลือซาก  
3. ตรวจเช็คถังเก็บน้ำชักโครกเสมอ
          หากถังเก็บน้ำชักโครกรั่วจะทำให้มีน้ำไหลลงชักโครกอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นแล้วควรหมั่นตรวจเช็คเป็นประจำ โดยการใส่สีผสมอาหารลงไปในถังเก็บน้ำชักโครกแล้วกดน้ำทิ้ง และหลังจากกดน้ำไปแล้วประมาณ 30 วินาทียังมีน้ำไหลออกมา แสดงว่าถังเก็บน้ำชักโครกชำรุด ต้องรีบซ่อมแซมโดยด่วน นอกจากนี้หากนำภาชนะ เช่น ถุงหรือขวดน้ำบรรจุน้ำนำไปใส่ไว้ในโถน้ำของถังชักโครกก็จะช่วยประหยัดน้ำไปอีกทางหนึ่งเช่นกัน
4. ปิดน้ำระหว่างแปรงฟัน
          หลาย ๆ คนมักจะเผลอเปิดน้ำขณะแปรงฟัน เพราะคิดว่าคงจะไม่สิ้นเปลืองอะไรมากมาย โดยที่ไม่รู้เลยว่าการทำเช่นนี้ทำให้เสียน้ำไปถึง 20-30 ลิตรต่อครั้ง เลยทีเดียว แต่ถ้าหากเราปิดน้ำระหว่างแปรงฟันหรือเปลี่ยนมาใช้แก้วรองน้ำสำหรับบ้วนปากหรือแปรงฟันแล้วละก็ ใช้น้ำเพียง 0.5-1 ลิตร เท่านั้นเอง
5. ปิดน้ำระหว่างถูสบู่
          จะเปิดน้ำทิ้งไปทำไมหากในระหว่างที่สระผมหรือถูสบู่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงควรปิดน้ำให้สนิทเสียก่อน แล้วค่อยเปิดน้ำอีกครั้งหลังจากชำระร่างกายด้วยสบู่เสร็จ
6. ซักผ้าครั้งละมาก ๆ
          การซักผ้าครั้งละน้อยชิ้นจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมากเพราะต้องทยอยซักเรื่อย ๆ ซึ่งเมื่อนำปริมาณน้ำซักผ้ามาคิดรวมกันแล้วจะมากกว่าการซักครั้งเดียวรวมกันหลายเท่า ฉะนั้นแล้วควรเก็บไว้ซักพร้อมกันอาจจะซักผ้าแค่ 1 หรือ 2 ครั้งต่อสัปดาห์
7. อาบน้ำให้เร็วขึ้น
          เพราะในการอาบน้ำแค่ 4 นาทีเท่ากับการใช้น้ำไป 75–150 ลิตร ซึ่งถ้าอาบนานกว่านี้ปริมาณของน้ำที่ต้องใช้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นแล้วควรอาบน้ำให้เร็วขึ้นอีกนิด ใช้เวลาให้น้อยลง เพื่อช่วยกันประหยัดทรัพยากรน้ำไว้ใช้ในภายภาคหน้า
8. อาบน้ำโดยใช้ฝักบัว
          หลายคนคงชอบนอนแช่ในอ่างอาบน้ำ แต่หลังจากนอนแช่ในอ่างเสร็จก็ต้องมาล้างตัวด้วยน้ำสะอาดอีกรอบอยู่ดี ซึ่งเท่ากับว่าใช้น้ำเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว อีกทั้งการใช้อ่างอาบน้ำเฉลี่ยแล้วใช้น้ำถึง 110-120 ลิตรเลยทีเดียว ฉะนั้นเปลี่ยนมาอาบน้ำโดยใช้ฝักบัวจะช่วยประหยัดได้มากกว่าเยอะเลย
9. เปลี่ยนวิธีล้างจาน
          หลาย ๆ คนอาจจะชินกับการเปิดน้ำไหลผ่านเพื่อล้างฟองสบู่ แต่กว่าจานจะสะอาดก็ต้องเสียน้ำไปมากเหมือนกัน เลยอยากแนะนำให้ใช้กระดาษเช็ดคราบสกปรกออกก่อน จากนั้นรองน้ำใส่กะละมังหรือซิงค์เอาไว้แล้วค่อยนำจานมาล้าง ซึ่งวิธีนี้ทำให้จานสะอาดมากกว่า แถมยังใช้น้ำในการล้างจานน้อยกว่าด้วย
10. ไม่เปิดน้ำไหลผ่านผักและผลไม้
          เช่นเดียวกับการล้างจาน การเปิดน้ำให้ไหลผ่านผักและผลไม้ต้องใช้น้ำเยอะและอาจจะล้างผักผลไม้ได้ไม่สะอาด ฉะนั้นจึงแนะนำให้ล้างโดยการเปิดน้ำใส่ซิงค์หรือกะละมังแล้วนำผักกับผลไม้แช่ลงไปดีกว่า
11. ปลูกหญ้ารอบโคนต้นไม้
          การปลูกหญ้ารอบโคนต้นไม้จะช่วยชะลอการระเหยน้ำ ถ้าบริเวณที่ปลูกต้นไม้มีแค่ดินหรือมีหญ้าเป็นหย่อม ๆ น้ำจะระเหยเร็วมากหลังจากรดน้ำต้นไม้ ทำให้ต้นไม้ได้รับน้ำไม่เพียงพอ เหี่ยวเฉา และต้องรดใหม่อีกรอบ
12. ตรวจสอบมิเตอร์น้ำ
          การตรวจสอบมิเตอร์น้ำเป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้รู้ว่าแต่ละเดือนนั้นใช้น้ำไปเท่าไรแล้ว ยังสามารถเช็คน้ำรั่วได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยให้ปิดน้ำแล้วไปเช็คมิเตอร์ ถ้ามิเตอร์ยังเพิ่มแสดงว่ามีน้ำรั่ว และถ้าเจอก็รีบให้ซ่อมแซมเสียนะคะ ก่อนที่จะเสียน้ำไปมากกว่านี้
13. รียูสน้ำซักผ้า
          หลังจากซักผ้าและล้างจานอย่าเพิ่งเทน้ำทิ้ง เพราะสามารถนำไปรดน้ำต้นไม้ต่อได้ แต่แนะนำให้ใช้น้ำสุดท้ายเท่านั้นนะคะ เพราะน้ำจากการซักผ้าและล้างจานครั้งแรก ๆ นั้นมีสารเคมีอยู่ ซึ่งอาจทำให้ต้นไม้เหี่ยวหรือเฉาตาย
14. ล้างรถให้ถูกวิธี
          การล้างรถอย่างถูกวิธีก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยประหยัดน้ำได้ โดยการล้างรถจากส่วนบนมาส่วนล่างและใช้ถังน้ำแทนสายยางจะช่วยประหยัดน้ำได้มากกว่า แถมหลังจากนี้ก็จะได้ไม่ต้องตกใจกับค่าน้ำแพง ๆ ในแต่ละเดือนอีกต่อไปแล้วด้วย
15. ใช้ฝักบัวรดน้ำต้นไม้
เพราะการใช้ฝักบ้วรดน้ำต้นไม้หรือน้ำที่เหลือจากกิจกรรมอื่น เช่น น้ำล้างผัก-ผลไม้ จะช่วยประหยัดน้ำได้มากกว่าการรดน้ำโดยการใช้สายยางต่อจากก๊อกน้ำโดนตรง สำหรับสวนพื้นที่กว้างแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้ปริงเกอร์แทน ก็ช่วยประหยัดน้ำได้เหมือนกัน

 

ข่าว ณ. วันที่ 17 พ.ค. 2565 เวลา 11.29 น. โดย คุณ กนกรัตน์ ชุ่มวิเชียร

ผู้เข้าชม 278 ท่าน